คะแนน 3

เหตุใด Ransom จึงไม่สามารถโทรโดยไม่ระบุชื่อได้?

th flag

ใน มีดออก (2019) นักสืบเบอนัวต์เปิดเผยแผนการของแรนซัม:

เบอนัวต์: มาร์ทาจะถูกจับกุมในข้อหาฆ่าฟรานและฮาร์ลาน และมันจะได้ผลถ้าเราไม่ได้พาคุณมาสอบปากคำ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องโทรออกโดยไม่เปิดเผยตัว และถ้าฟรานไม่ได้เก็บสำเนารายงานพิษไว้

ทำไมเขาไม่โทรออกโดยไม่เปิดเผยตัวถ้าตำรวจไม่ได้พาเขาไปสอบปากคำ?

คะแนน 4
th flag
A J

ที่จริงแล้ว นักสืบเบอนัวต์บอกว่าถ้าตำรวจไม่ได้นำค่าไถ่มาสอบปากคำ เขาอาจจะโทรไปโดยไม่เปิดเผยชื่อที่เขาวางแผนไว้แต่แรก

เดิมค่าไถ่วางแผนที่จะโทรออกหลังจากที่เขาและมาร์ทาไปเยี่ยมห้องทดลองที่ถูกไฟไหม้ แต่นักสืบเห็นเขาและเริ่มไล่ตามพวกเขา แผนยังคงใช้การได้เมื่อมาร์ทาและแรนซัมหยุดลง แต่นั่นคือตอนที่ตำรวจมาถึงและพวกเขาก็รับตัวแรนซัมไปสอบปากคำ

คะแนน 3
th flag

ประเด็นของการโทรอยู่ในเวลา แผนของค่าไถ่คือการไปพบแฟรนที่ร้านซักรีดตอน 8 โมงเช้า ซึ่งเป็นที่ที่ฟรานจัดไว้ตั้งแต่แรก

จดหมายแบล็กเมล์ต้นฉบับของฟราน

ฆ่าฟราน เขาใช้มอร์ฟีนเพื่อสะท้อนอุบัติเหตุของมาร์ทากับฮาร์ลานเพื่อทำให้มาร์ทาน่าสงสัยมากขึ้น

ค่าไถ่เอามอร์ฟีนออกจากขวด โดยมีร่างของฟรานอยู่เบื้องหลังเบลอ

จากนั้นให้มาร์ทาไปถึงที่ตั้งของฟรานเวลา 10.00 น. ในระหว่างนั้นเขาได้วางแผนที่จะโทรหาตำรวจโดยไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อที่พวกเขาจะได้มาพบมาร์ทาที่ศพของฟราน

ใส่คำอธิบายภาพที่นี่

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแรนซัมถูกจับ เขาจึงไม่สามารถโทรออกโดยไม่ระบุชื่อได้ ในเวลาที่เหมาะสม. เขายังสามารถโทรออกได้หลังจากนั้น แต่สันนิษฐานว่าพวกเขาเพิ่งพบศพของ Fran ที่ไม่มี Marta

ไม่สำคัญหรอกเพราะมารตา

จบลงด้วยการเรียกรถพยาบาลและทำ CPR เพื่อพยายามช่วยฟราน

โพสต์คำตอบ

คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าการถามคำถามมากมายจะปลดล็อกการเรียนรู้และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาของ Alison แม้ว่าผู้คนจะจำได้อย่างแม่นยำว่ามีคำถามกี่ข้อที่ถูกถามในการสนทนา แต่พวกเขาไม่เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างคำถามและความชอบ จากการศึกษาทั้ง 4 เรื่องที่ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการสนทนาด้วยตนเองหรืออ่านบันทึกการสนทนาของผู้อื่น ผู้คนมักไม่ทราบว่าการถามคำถามจะมีอิทธิพลหรือมีอิทธิพลต่อระดับมิตรภาพระหว่างผู้สนทนา